เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัวโคโลราโด ไฮ คันทรี่ ยกระดับความหรูหราให้รถกระบะพันธุ์แกร่งสำหรับตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ลูกค้าจำนวนมากต้องการคุณสมบัติที่เหนือกว่าสำหรับรถกระบะนอก เหนือไปจากสมรรถนะการวิ่งบนท้องถนนและการลุยเส้นทางออฟโรดรวมไปถึงกำลังในการบรรทุกซึ่งเพียบพร้อมอยู่ในรถกระบะ โคโลราโดทุกรุ่นแล้ว พวกเขายังต้องการความโดดเด่นที่เหนือกว่าซึ่งไฮ คันทรี่ ไม่เพียงแต่เป็นรถกระบะที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเท่านั้นหากยังตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์” มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว
ไฮ คันทรี่ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นล่าสุดของเชฟโรเลตในการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่สานต่อตำนานความสำเร็จ “รถกระบะพันธุ์แกร่ง” ของแบรนด์เชฟโรเลต จีเอ็มแนะนำรถกระบะเชฟโรเลต รุ่นแรกในอเมริกาเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมาและยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่สำหรับตลาดรถกระบะอย่างต่อเนื่อง
เชฟโรเลต พัฒนารถกระบะ รุ่นไฮ คันทรี่ ด้วยการให้ความสำคัญสูงสุดกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตในเมือง การตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกช่วยสร้างความแตกต่างให้ไฮ คันทรี่ มีความโดดเด่นเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นในประเทศไทยด้วยโคมไฟหน้าสีเข้ม กระจังหน้าสีเทาอ่อนสลับดำ รวมถึงแผงกันชนเสริม และเสาหลังคากลางด้วยวัสดุพื้นผิวมันเงา พร้อมกันนี้ยังคงความสวยงามสะดุดตาด้วยการติดตั้งราวหลังคาแนวขวาง โครงเหล็กแบบสปอร์ต ลายโครเมียมด้านข้างตัวรถและกระจกมองข้าง ที่เปิดฝากระบะท้ายสีดำโครเมียม และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้วที่ยกระดับไฮ คันทรี่ ให้มีความสง่างามมากยิ่งขึ้นและเน้นย้ำความเป็นรถระดับพรีเมียมสำหรับคนเมืองอย่างชัดเจน
"ไฮ คันทรี่ ได้รับการยกระดับความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องการห้องโดยสารที่สวยงาม ทันสมัย และอุปกรณ์เทคโนโลยีในระดับเดียวกับรถพรีเมียม รูปลักษณ์ภายนอกมีความแข็งแกร่งเหมาะกับการใช้งานหนักแต่ยังคงความสวยสะดุดตาสำหรับการออกเดทในค่ำคืนพิเศษกับคนรู้ใจ" อุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว
ขุมพลังขับเคลื่อนของไฮ คันทรี่ คือ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สองซึ่งทำให้ไฮ คันทรี่ เป็นรถกระบะที่ทรงพลังและมีแรงบิดสูงที่สุดในรถตลาดเดียวกัน เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ไฮ คันทรี่ จึงมีกำลังเทียบเท่าหรือเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่กว่า และเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์นี้ยังให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจและสมรรถนะที่สูงต่อเนื่อง รวมถึงกำลังในการลากจูงและการบรรทุกได้อย่างเต็มพิกัด
เครื่องยนต์นี้ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยจีเอ็มเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ดีเซล 2.8 ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
สำหรับความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ ไฮ คันทรี่ มาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลคทรอนิคส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
ไฮ คันทรี่ ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัดโดยกำหนดการเข้าตรวจเช็คสภาพรถอยู่ที่ทุก 15,000 กม. ซึ่งมีระยะเวลาการกำหนดเข้าตรวจเช็คสภาพนานกว่าคู่แข่งที่กำหนดการตรวจเช็คไว้ที่ทุก 10,000 กม.
เชฟโรเลต โคโลราโดไฮ คันทรี่ มี 2 รุ่นให้เลือก คือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 969,000บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา1,029,000บาท
เชฟโรเลต โคโลราโด เป็นผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์เชฟโรเลตในประเทศไทย ไฮ คันทรี่ ได้รับการออกแบบเพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของรถกระบะเชฟโรเลตโดยกระตุ้นการซื้อ ด้วยการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะระดับพรีเมี่ยมและจะมีการเปิดตัวสู่ตลาดในเดือนมีนาคมนี้ที่งานบางกอก
อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2558 สำหรับการปรับโฉมเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นย่อยอื่นๆ จะประกาศให้ทราบในภายหลัง