การดูแลสุขภาพรถและเช็คสภาพตามกำหนดระยะทาง จะเป็นรายละเอียดต่อจากครั้งที่แล้ว
โดยจะเริ่มต้นที่ระยะการเช็คสภาพรถยนต์ที่ 60,000 กม. เป็นต้นไป
1. ตรวจระดับและคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
- น้ำมันเครื่องจะต้องอยู่ในระดับที่กำหนด
- น้ำมันเครื่องใสเกินไปหรือไม่
- น้ำมันเครื่องมีน้ำปนหรือไม่
- น้ำมันเครื่องสกปรกมากหรือไม่
- น้ำมันเครื่องมีเศษผง หรือเศษโลหะเจือปนอยู่ หรือไม่
2. ตรวจรอยรั่วน้ำมันและอุปกรณ์ในห้องเครื่องยนต์
- ตรวจรอยรั่วของน้ำมันต่างๆ ตามท่อทางเดินหรือสังเกตพื้นรถที่จอดอยู่
- ตรวจความตึงของสายพานปั๊มน้ำ
- ตรวจชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ หลวมคลอนหรือไม่
- ตรวจสายไฟและปลั๊กต่อสายไปหลุดหลวมหรือไม่
3. ตรวจและเติมน้ำหล่อเย็น
- ตรวจท่อน้ำ และการรั่วของน้ำหล่อเย็น
- ตรวจน้ำในหม้อน้ำ ควรต่ำกว่าคอหม้อน้ำ 20 ม.ม.
- เติมน้ำในหม้อพักน้ำไม่เกินขีดบน
- ใช้น้ำสะอาดเติมเท่านั้น อย่าใช้น้ำกระด้าง หรือน้ำด่างแทนน้ำสะอาด
4. ตรวจระดับน้ำมันเบรก และคลัตช์
- ตรวจดูระดับน้ำมันเบรก และคลัตช์ต้องอยู่ในระดับ
- ถ้าน้ำมันต่ำกว่าขีดต่ำสุดให้เติมถึงขีดสูงสุด
5. ตรวจแบตเตอรี่
- ตรวจดูระดับน้ำกรดแบตเตอรี่ต้องอยู่ในระดับ
- ถ้าระดับน้ำกรดต่ำกว่าขีดล่างต้องเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับขีดบน
- ตรวจดูรูระบายอากาศที่ฝาปิดแบตเตอรี่ ต้องไม่อุดตัน
- ขั้วแบตเตอรี่ต้องสะอาด และสายไฟที่มาต่อที่ขั้วต้องแน่น
6. การใช้และการตรวจสอบยาง
- น็อตยึดล้อต้องไม่คลายตัว และกะทะล้อต้องไม่ชำรุด
- ที่เติมลมยางทุกเส้นต้องมีฝาปิดกันสิ่งสกปรกเข้า
7. ตะกั่วถ่วงล้อต้องไม่หลุดจากกะทะล้อ
8. ตรวจสภาพการสึกหรอของดอกยาง
9. ตรวจลมยางด้วยเกจ์วัดลมอย่างน้อยเดือนละครั้ง
10. ตรวจเช็คประจำวันดูลักษณะของยางตอนที่กดลงบนพื้น
11. ตรวจดูการรั่วของลมยางที่จุ๊บเติมลง หรือตามตำแหน่งที่ถูกตะปูหรือสิ่งอื่นฝังอยู่ในเนื้อยาง
12. การเปลี่ยนยางเส้นใหม่ จงใช้ยางที่มีขนาดและโครงสร้าง เหมือนกับยางที่ติดรถมา
และมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน หรือดีกว่า