พื้นที่ๆ มีโคลนและทราย
เมื่อ ขับขี่ผ่านเส้นทางที่มีสภาพถนนเช่นนี้ ไม่ควรแตะเบรคหรือ ดึงเบรคมือ อย่างกระทันหัน เพราะจะทำให้รถเสียหลัก ควรใช้เกียร์ต่ำ ในการขับเคลื่อนผ่านเส้นทาง พยายามควบคุมพวงมาลัย หลีกเลี่ยงจุดที่มีโคลนเหลวมากๆ หรือกองทราย เพราะหากล้อชุดที่ขับเคลื่อน วิ่งผ่าน อาจเกิดเหตุการณ์ล้อหมุนฟรี และไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านไปได้
พื้นที่ๆ ลื่นด้วยน้ำมัน
เมื่อ ถนนบางเส้นทาง เกิดมีน้ำมันเครื่อง หกเกลื่อนถนน จะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ผู้ขับขี่รถด้วยความเร็ว เมื่อแตะเบรคอย่างกระทันหัน ในบริเวณนี้ ก็จะเกิดอาการท้ายปัด รถเสียการทรงตัว และไม่สามารถควบคุมรถ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ ผู้ขับขี่ ควรชะลอความเร็ว ด้วยการใช้เกียร์ต่ำ และอย่า แตะเบรคกระทันหัน ค่อยๆ เคลื่อนที่ ผ่านบริเวณดังกล่าวไป และอย่าเพิ่งใช้ความเร็วโดยกระทันหัน เพราะคราบน้ำมัน ที่เกาะอยู่กับผิวล้อ ยังไม่ทันจางหายไป ควรขับผ่านไปสักระยะหนึ่ง เมื่อแน่ใจว่า คราบน้ำมัน ที่เกาะอยู่บนผิวล้อนั้นได้จากหายไป กับพื้นถนนแล้ว ค่อยเริ่มใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น
พื้นที่ๆ มีลูกระนาดขวางถนน
พื้นที่ เช่นนี้ มักพบในบริเวณ ตามหมู่บ้าน หรือตามซอย ที่ไม่ต้องการ ให้มีการขับขี่ ด้วยความเร็วสูง เพราะจะเป็นอันตราย กับผู้คน หรือสิ่งของละแวกนั้น ส่วนใหญ่ จะเป็นบริเวณชุมชน เมื่อขับรถผ่านลูกระนาดขวางถนน คงจะต้องลด หรือชะลอความเร็วลง จนถึงขนาดใช้เกียร์หนึ่ง ในการเคลื่อนตัวผ่าน เพราะไม่เช่นนั้น แรงกระแทกที่เกิดขึ้น ที่ล้อรถ กับบริเวณลูกระนาด อาจทำความเสียหาย ให้กับระบบช่วงล่างรถยนต์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พื้นที่ๆ เป็นหลุมเป็นบ่อ
หมาย ถึง พื้นที่บริเวณน้ำท่วมขัง ซ่อมทาง ดินทรุด หรือบริเวณพื้นผิว ที่เป็นหลุม เป็นบ่อต่างๆ ผู้ขับขี่ ควรสังเกต บริเวณที่มีขนาดหลุมที่ตื้น และปลอดภัยที่สุด ใช้เกียร์ต่ำ ควบคุมพวงมาลัยให้ดี ค่อยๆ หย่อนล้อลงไป บริเวณขอบหลุม แล้วพยายามประคองพวงมาลัยให้มั่นคง เพราะจะเกิดแรงฝืน ที่มุมล้อต้านกับความสูง-ต่ำของหลุม หลีกเลี่ยง บริเวณที่เป็นโคลน-เลน ใช้คันเร่ง และเยียบเบรค ให้เป็นจังหวะ
พื้นที่ๆ มีทางรถไฟขวางหน้า
ให้ หลักของกฎจราจร โดยปกติ เมื่อขับรถผ่านเส้นทาง ที่มีทางรถไฟขวางถนนอยู่ ควรชะลอความเร็ว และควรหยุดรถนิ่ง ในขณะที่รถไฟ กำลังจะแล่นมา ไม่ควรเร่งความเร็วสูง เพื่อจะได้พ้นผ่านจุดดังกล่าวไป ในลักษณะของประมาท บางกรณีเช่น ค่ำคืน ดึกดื่น ยิ่งควรระวังให้มาก เพราะสิ่งที่ผู้ขับขี่มองเห็นนั้น มีเฉพาะ บริเวณด้านหน้ารถ ที่ไฟส่องสว่าง สามารถส่องไปถึงเท่านั้น แต่รถไฟ มักจะแล่นมาทางด้านข้าง ผ่านหน้าผู้ขับขี่ไป ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือ ชะลอความเร็วลง มองซ้าย-ขวา ให้แน่ใจ ก่อนตัดสินใจ ขับผ่านทางรถไฟขวางถนน ซึ่งเราสามารถที่จะสังเกต เห็นป้ายสัญญาณเตือน ที่ทางราชการติดไว้ ก่อนหน้าจะถึงทางข้ามรถไฟ
พื้นที่ๆ มีความลาดชัน
เมื่อขับขี่ขึ้น ทางลาดชัน ไม่ควรใช้ความเร็วสูง และห้ามขับแซง ยิ่งเป็นบริเวณที่ลาดชัน ผสมกับเป็นทางโค้ง เช่นบริเวณทางขึ้น-ลง เขา ยิ่งต้องใช้ความระมัดระวัง เป็นพิเศษ สังเกตป้ายเตือน บริเวณริมถนน เพื่อประเมินสถานะการณ์ด้านหน้าให้ดี กรณีรถติดบนทางลาดชัน เช่นรถติดไฟแดงในเมือง ควรเว้นระยะห่าง ระหว่างรถคันหน้า และรถของเรา เผื่อไว้สักระยะหนึ่ง เพราะเมื่อมีการเคลื่อนตัวออกไป รถที่อยู่บนเนิน อาจมีอาการถอยหลัง มาชน หน้ารถของเราได้ ดังนั้น จึงควรระวังตรงจุดนี้ไว้ด้วย หากเราจำเป็นต้องจอดรถบนเนินทางขึ้น ควรดึงเบรคมือไว้ เมื่อออกตัวอีกครั้ง ให้เร่งรอบเครื่องขึ้นหน่อย เข้าเกียร์แล้วออกตัว ปลดเบรคมือลง พยายามให้รถถอยหลังน้อยที่สุด
www.CarsCare.Com