ยานยนต์อุตสาหกรรม | ระบะเกียร์
Posted by Contemporary industry
Posted on 06:35
ระบบเกียร์
ระบบเกียร์มีหน้าที่ เปลี่ยนกำลังหมุนที่มาจากเครื่องยนต์ไปยังกำลังขับเคลื่อน และจากนั้นจึงควบคุมการทำงานของมันไปยังล้อขับเคลื่อน รถยกพลังเครื่องยนต์โดยส่วนใหญ่มี ระบบเกียร์แบบธรรมดา หรือระบบเกียร์ Power shift ชนิดใดชนิดหนึ่ง อย่างเช่น ระบบเกียร์ที่ส่งถ่ายกำลังด้วยของเหลว (Hydrodynamic transmission) หรือระบบเกียร์ไฮโดรสถิต (Hydrostatic transmission)
ระบบเกียร์แบบธรรมดา
ระบบเกียร์แบบธรรมดา คือ ระบบเกียร์ที่มีคันเหยียบคลัทช์ และกระปุกเกียร์เหมือนกับระบบเกียร์ในรถยนต์มาตรฐาน ผู้ปฏิบัติงานต้องกดคันเหยียบคลัทช์และเลื่อนคันโยกเกียร์ด้วยตัวเองเพื่อเปลี่ยนเกียร์ ระบบเกียร์แบบธรรมดานี้ ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับรถยก เนื่องจากเสียค่าใช้จ่ายแรกเริ่มน้อยกว่าระบบเกียร์ Power shift และง่ายต่อการดูแลรักษา
ระบบเกียร์ Power shift แบบส่งถ่ายกำลังด้วยของเหลว
โดยปรกติแล้ว รถยกที่มีระบบเกียร์ Power shift ของโตโยต้าจะมีเลข 02-, 62- หรือ 42 ระบุอยู่ด้านหน้าเลขโมเดล ในระบบเกียร์ Power shift เหล่านี้ จะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่าอุปกรณ์ปรับแรงบิดทำหน้าที่แทนคลัตช์ ซึ่งจะเปลี่ยนแรงบิดโดยอัตโนมัติเพื่อให้เข้ากับความต้องการ อุปกรณ์ปรับแรงบิดเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบเกียร์ซึ่งประกอบไปด้วยจานคลัตช์ที่ทำงานด้วยไฮดรอลิกมากมาย ผู้ใช้งานเพียงแค่ใช้คันโยกควบคุมทิศทางเพื่อเปลี่ยนว่าจะเคลื่อนไปด้านหน้าหรือด้านหลัง ประโยชน์อย่างหนึ่งที่จะได้รับจากระบบเกียร์ชนิดนี้คือ ผู้ใช้ไม่ต้องเหยียบคลัตช์หรือวุ่นวายเกี่ยวกับเกียร์ ผู้ใช้เพียงแต่เลือกทิศทางที่ต้องการ และแค่เหยียบตัวคันเร่ง สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนรถยนต์ทั่วไปก็คือ การเปลี่ยนไปใช้ความเร็วสูงหรือต่ำนั้นผู้ใช้ต้องทำด้วยตนเอง โดยการเลื่อนคันโยกภายหลังที่รถเคลื่อนที่แล้ว
ระบบเกียร์ไฮโดรสถิตย์
โดยทั่วไปแล้วระบบเกียร์ไฮโดรสถิตย์จะถูกใช้กับรถตักใหญ่ ซึ่งก็เหมือนที่ชื่อบอก ยานพาหนะเหล่านี้ถูกบังคับทิศทางโดยกระจายกำลังไปที่ล้อทั้งสองด้าน การเคลื่อนที่และการบังคับทิศทางของรถประเภทนี้เหมือนกับรถแทรกเตอร์เกลี่ยดิน หรือรถถัง
ในระบบเกียร์ไฮโดรสถิตย์ เครื่องยนต์จะทำหน้าที่หมุนปั๊มไฮดรอลิก ซึ่งส่งแรงดันไปยังสารไฮดรอลิก สารนั้นจะให้กำลังมอเตอร์ไฮดรอลิกต่างๆ ที่ถูกเชื่อมต่อกับล้อขับเคลื่อน การเลือกทิศทาง ความเร็วขับเคลื่อนและการควบคุมทิศทางนั้นจะถูกควบคุม โดยปริมาณสารไฮดรอลิกที่ถูกส่งเข้าไปยังมอเตอร์ไฮดรอลิกทั้งหมด
จานเอียงถูกติดที่ปั๊ม การเอียงของจานนี้จะควบคุมทิศทาง และจำนวนกระแสน้ำมันที่ไหลไปยังมอเตอร์ จานนี้ถูกเชื่อมต่อกับคันโยกในห้องผู้โดยสาร ผู้ใช้เลื่อนคันโยกไปด้านหน้าหรือด้านหลัง เพื่อควบคุมความเร็วและทิศทางของตัวมอเตอร์
อัตราทดเกียร์: อัตราทดเกียร์คือ อัตราระหว่างความเร็วเครื่องยนต์และความเร็วของเพลากลาง พึงจำไว้ว่าความเร็วของการหมุนในลักษณะนี้ถูกเรียกว่า “RPM” หรืออัตรารอบหมุน / นาที ซึ่งมีสูตรที่ง่าย ๆ ดังนี้: อัตราทดเกียร์ = อัตรารอบหมุน / นาทีของเพลากลาง (อัตรารอบหมุน / นาทีของเครื่องยนต์) หรืออีกนัยหนึ่ง อัตราใหญ่ในที่นี้หมายถึงกำลังรอบหมุน / นาทีที่มาก อัตรารอบหมุน / นาทีของเพลากลางจะต่ำ แต่จำนวนแรงบิดจะเพิ่มสูงขึ้น ในทางกลับกัน อัตราทดเกียร์น้อยก็จะหมายถึงรอบหมุน / นาทีที่เร็วขึ้นของเพลากลาง แต่จำนวนแรงบิดลดต่ำลง
คันเหยียบเคลื่อนน้อย: คันเหยียบเคลื่อนน้อยเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ทำให้ ระบบเกียร์ Power shift แตก
ต่างจากระบบเกียร์อัตโนมัติสำหรับรถยนต์ คันเหยียบเคลื่อนน้อยนี้ถูกเชื่อมต่อกับคันเหยียบเบรก และแป้นคลัตช์ในระบบเกียร์ Power shift ความแตกต่างระหว่างคันเหยียบเคลื่อนน้อย และคันเหยียบเบรกคือ เมื่อกดคันเหยียบเบรก กำลังทั้งหมดที่ถูกส่งไปยังระบบขับเคลื่อนจะหยุดชะงักลง แต่เมื่อกดคันเหยียบเคลื่อนน้อย ซึ่งเป็นการลดแรงดันน้ำมันไปที่คลัตช์ จึงทำให้เกิดผลเหมือน “การเหยียบคลัตช์เพียงครึ่งเดียว” ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยกได้อย่างแม่นยำแม้ว่าเครื่องยนต์กำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง
เหล่านี้หมายความว่าเครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มกำลัง เพื่อยกสิ่งของในขณะที่คันเหยียบเคลื่อนน้อยก็จะถูกใช้ เพื่อเลือกตำแหน่งที่รถยกควรวางของที่บรรทุกไว้ได้อย่างแม่นยำ
คันโยกและคันเหยียบเลือกทิศทาง
โตโยต้าใช้คันโยกเลือกทิศทางสำหรับรถยกทุกรุ่น อย่างไรก็ตาม พึงจำไว้ว่าไม่ใช่ผู้ผลิตทั้งหมดจะเลือกใช้คันโยกควบคุมทิศทางนี้ ผู้ผลิตบางรายใช้คันเหยียบแทน ผู้ปฏิบัติงานกดคันเหยียบเพื่อควบคุมทิศทางที่เขาต้องการขับเคลื่อนไป ทฤษฎีเบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือผู้ปฏิบัติงานยังสามารถถือพวงมาลัยหรือตัวควบคุมอื่น ๆ ได้ในขณะที่ใช้เท้าเลือกทิศทาง โตโยต้านั้นใช้คันโยกโดยเหตุผลหลายประการ นั่นคือมันถูกควบคุมแบบแมนนวล และให้ผู้ใช้
งานมองเห็นทิศทางการขับเคลื่อนได้อย่างแน่นอน เนื่องจากคันโยกเป็นตัวควบคุมการทำงาน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ทิศทางขับเคลื่อนนั้นจะมีความผิดพลาด โตโยต้ายังใช้สวิตช์ควบคุมความปลอดภัยเกียร์ว่าง สวิตช์นี้ป้องกันรถยกจากการติดเครื่อง เมื่อคันโยกเปลี่ยนทิศทางอยู่ในต่ำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตำแหน่งเกียร์ว่าง ส่วนชนิดเลือกทิศทางด้วยคันเหยียบนั้นไม่มีฟังก์ชั่นนี้ ดังนั้นรถยกจะเคลื่อนที่ไปด้านหน้าทันทีที่รถติด
ป้ายกำกับ:
ยานยนต์ อุตสาหกรรม,
รถยก,
รถยกอุตสาหกรรม,
อุตสาหกรรมรถยก
ยานยนต์อุตสาหกรรม | ระบบเตรื่องยนต์
Posted by Contemporary industry
Posted on 07:40
หัวฉีดน้ำมันดีเซล
เครื่องยนต์ดีเซลไม่จำเป็นต้องใช้ระบบการจุดระเบิด แต่จะใช้การฉีดน้ำมันไปยังอากาศ ซึ่งถูกทำให้ร้อนโดยการบิดอัดภายในกระบอกสูบเพื่อให้ได้การสันดาป ในส่วนนี้จะให้รายละเอียดของชนิดวิธีการฉีด 2 วิธีหลัก: คือ Direct injection และ Indirect injection
ชนิด Direct Injection ( เครื่อง 2Z, 13Z และ 14Z )
ดังที่ชื่อบอกชนิดของหัวฉีด Direct injection จะสเปรย์ หรือฉีดน้ำมันดีเซลไปยังห้องสันดาปโดยตรงเพื่อให้เกิดการจุดระเบิด ในตัวหัวฉีดน้ำมันดีเซล 1 ตัว นั้นจะมีรูเล็ก ๆ มากมายที่จะแปลงน้ำมันที่ถูกฉีดเข้าไปให้เป็นละอองน้ำมันเพื่อให้ได้การสันดาปที่มากกว่า
ชนิด In-Direct Injection ( เครื่อง 1DZ และ 1DZ-II )
สำหรับหัวฉีดชนิดนี้ จะมีห้องเล็ก ๆ อยู่ภายนอกห้องสันดาป หรือที่เรียกว่าห้องก่อนการสันดาป ซึ่งถูกเชื่อมต่อโดยทางผ่านไปยังห้องสันดาป โดยน้ำมันจะถูกฉีดไปยังห้องก่อนการ ซึ่งทำให้น้ำมันเกิดการจุดระเบิดและกระจายตัวไปยังห้องสันดาป
(b) คุณลักษณะเครื่องยนต์แก๊สโซลีน
เครื่องยนต์แก๊สโซลีนของยานยนต์อุตสาหกรรมเมื่อมองโดยรวม
มีเครื่องยนต์แก๊สโซลีนให้เลือกใช้ 4 รุ่น สำหรับยานพาหนะเพื่อการอุตสาหกรรมของยานยนต์อุตสาหกรรม (เมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2544) ซึ่งแต่ละรุ่นมีขนาดเครื่อง และ Output ต่าง ๆ ที่ตรงกับชนิดของงานที่แตกต่างกัน พึงจำไว้ว่าจริง ๆ แล้วเครื่องยนต์เหล่านี้บางตัว อาจมีส่วนประกอบที่เหมือนกันกับในเครื่องยนต์อื่น ๆ แต่ถูกปรับแต่งพิเศษจนได้ระดับพลังงานและแรงบิดเฉพาะเพื่อเหมาะสมการสภาพการลำเลียงสิ่งของที่แตกต่างกัน
ในช่วงทศวรรษ 1970 ยานยนต์อุตสาหกรรมใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 รุ่น แตกต่างกันในยานยนต์อุตสาหกรรม: เครื่อง 3P ขนาด 1,345 ซีซี , เครื่อง 2R ขนาด 1,490 ซีซี ; และเครื่องแก๊สโซลีน 5R 4 กระบอกสูบ ขนาด 1,994 ซีซี เช่นเดียวกัน เครื่องยนต์ F 6 กระบอกสูบ ขนาด 3,873 ซีซี เครื่องยนต์ P series เป็นที่รู้จักกันดีนั้น มีวิวัฒนาการจากเครื่อง 3P ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ไปเป็นเครื่อง 4P ขนาด 1,493 ซีซี และไปเป็นเครื่อง 5P ขนาด 2,771 ซีซี ในช่วงกลางทศวรรษ 1970 ในภายหลัง ส่วนเครื่อง F series ได้เปลี่ยนไปเป็นเครื่อง 2F ขนาด 4,230 ซีซี ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และเปลี่ยนไปเป็นเครื่องยนต์ 3F ขนาด 3,955 ซีซี ในช่วงต้นทศวรรษ 1990
ในช่วงที่มีการเปลี่ยนรุ่น series 1 ถึง 3 ตัน เต็มรูปแบบในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เครื่องยนต์ 4Y ขนาด 2,237 ซีซี ได้เข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ 5P และยังคงใช้เรื่อยมาจนถึงวันนี้ ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ได้มีการแนะนำเครื่องยนต์ 5K ขนาด 1,486 ซีซี เข้าสู่ท้องตลาดเพื่อเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ 5Pในขณะที่มีการใช้เครื่องยนต์ 5K และ 4Y ใน series 1 ถึง 3.5 ตัน ซึ่งเครื่องทั้งสองรุ่นมีเพลาข้อเหวี่ยงถึง 5 ตัวอันจะช่วยเพิ่มความไว้วางใจให้รถได้ ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องยนต์ 4Y มีการถ่วงดุลน้ำหนัก (ที่เพลาข้อเหวี่ยง) ถึง 8 จุดเพื่อช่วยลดการสั่นสะเทือน
ของเครื่องยนต์ได้อย่างมาก เครื่องยนต์ 1FZ ถูกใช้ในรุ่น 3.5 ถึง 5 ตัน
ห้องสันดาปรูปลิ่ม (เครื่องยนต์ 5K และ 4 )
“ลิ่ม” คือรูปทรงที่ได้ระหว่างลูกสูบและส่วนบนของห้องสันดาป โดยปรกติแล้วพื้นที่ส่วนนี้จะมีรูปทรงครึ่งวงกลม แต่ยานยนต์อุตสาหกรรมเห็นแล้วว่าทรงรูปลิ่มนั้นสร้างสภาพการผสมน้ำมันกับอากาศได้ดีที่สุด สภาพการผสมหรือที่เรียกว่า การหมุน ที่ได้จากรูปทรงรูปลิ่มนั้นให้ประสิทธิภาพ และกำลังของเชื้อเพลิงได้สมบูรณ์ที่สุดในช่วงการหมุน 1,000 ถึง 2,400 รอบต่อนาที ในเครื่องยนต์ของยานพาหนะเพื่อการอุตสาหกรรม
ห้องสันดาปทรงหลังคาห้าเหลี่ยม (เครื่องยนต์ 1FZ)
ดังที่ชื่อบอก หลังคาห้าเหลี่ยมหมายถึง รูปทรงห้าเหลี่ยมที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างลูกสูบ และส่วนบนของห้องสันดาป รูปทรงนี้เพิ่มกระแสการผสมภายในกระบอกสูบ อันเป็นการช่วยปล่อยแก๊สไอเสียออกมา รูปแบบนี้ยังช่วยสร้างกระแสน้ำมันหมุนวนภายในห้องสันดาป เมื่อลูกสูบอยู่จุดบนสุดของการเหวี่ยงซึ่งช่วยลดเสียงกระแทก ( เสียงกระแทก: เสียงที่เหมือนการตอกตะปูอันเกิดขึ้นระหว่าง การสันดาปที่ไม่เหมาะสมของการผสมเชื้อเพลิง )
ระบบการจุดระเบิดแบบองค์รวม (เครื่องยนต์ 5K และ 4Y)
ระบบจุดระเบิดแบบองค์รวม หรือ The Integrated Ignition Assembly (I.I.A) มีคอยล์จุดระเบิดและตัวจุดระเบิดที่ถูกสร้างเข้าไปในตัวจ่าย การออกแบบเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะให้ระบบการจุดระเบิดที่กะทัดรัดและไม่ต้องใช้การดูแลรักษา (ไม่มีจุดใดที่ต้องเปลี่ยน) แล้ว การจุดระเบิดไฟฟ้าจะส่งประกายไฟที่ร้อนกว่าที่ได้จากระบบดั้งเดิม ทั้งหมดนี้ให้การสันดาปที่ดีกว่าเพื่อประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงคุ้มกว่าและเกิดสารคาร์บอนในเครื่องยนต์น้อยลง
ห้องสันดาปรูปลิ่ม (เครื่องยนต์ 5K และ 4 )
“ลิ่ม” คือรูปทรงที่ได้ระหว่างลูกสูบและส่วนบนของห้องสันดาป โดยปรกติแล้วพื้นที่ส่วนนี้จะมีรูปทรงครึ่งวงกลม แต่โตโยต้าเห็นแล้วว่าทรงรูปลิ่มนั้นสร้างสภาพการผสมน้ำมันกับอากาศได้ดีที่สุด สภาพการผสมหรือที่เรียกว่า การหมุน ที่ได้จากรูปทรงรูปลิ่มนั้นให้ประสิทธิภาพ และกำลังของเชื้อเพลิงได้สมบูรณ์ที่สุดในช่วงการหมุน 1,000 ถึง 2,400 รอบต่อนาที ในเครื่องยนต์ของยานพาหนะเพื่อการอุตสาหกรรม
ห้องสันดาปทรงหลังคาห้าเหลี่ยม (เครื่องยนต์ 1FZ)
ดังที่ชื่อบอก หลังคาห้าเหลี่ยมหมายถึง รูปทรงห้าเหลี่ยมที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างลูกสูบ และส่วนบนของห้องสันดาป รูปทรงนี้เพิ่มกระแสการผสมภายในกระบอกสูบ อันเป็นการช่วยปล่อยแก๊สไอเสียออกมา รูปแบบนี้ยังช่วยสร้างกระแสน้ำมันหมุนวนภายในห้องสันดาป เมื่อลูกสูบอยู่จุดบนสุดของการเหวี่ยงซึ่งช่วยลดเสียงกระแทก ( เสียงกระแทก: เสียงที่เหมือนการตอกตะปูอันเกิดขึ้นระหว่าง การสันดาปที่ไม่เหมาะสมของการผสมเชื้อเพลิง )
ป้ายกำกับ:
ยานยนต์ อุตสาหกรรม,
รถยก,
รถยกอุตสาหกรรม,
อุตสาหกรรมรถยก
ยานยนต์อุตสาหกรรม | ระบบส่งกำลัง
Posted by Contemporary industry
Posted on 06:57
ยานยนต์อุตสาหกรรม ระบบส่งกำลัง
แม้ว่ายานยนต์อุตสาหกรรมจะมีระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โครงสร้างระบบส่งกำลังของยานยนต์อุตสาหกรรมนั้นเหมือนกับของรถกระบะ (ปิกอัพ) มากกว่าของรถยนต์ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า สำหรับรถกระบะปิกอัพพลังขับเคลื่อนที่เกิดจากเครื่องยนต์ นั้น โดยปรกติแล้วจะถูกส่งไปยังอุปกรณ์ปรับแรงบิด และจากนั้นก็ผ่านไปยังระบบเกียร์ เพลากลาง เฟืองท้าย และเพลาข้างจนไปถึงล้อขับเคลื่อนด้านหลัง โดยสรุปก็คือ ยานยนต์อุตสาหกรรมมีระบบการส่งกำลังเหมือนกับรถกระบะปิกอัพ
ยานยนต์อุตสาหกรรมมีเพลาหน้าที่ทนทานแข็งแรง และมีการบังคับทิศทางจากล้อหลัง จุดสำคัญที่ควรจำไว้ก็คือไม่ว่าจะมีชนิดเกียร์ขับเคลื่อนแบบใด จุดหมายก็คือ การวางสิ่งที่บรรทุกให้ใกล้ล้อขับเคลื่อนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้แรงดึงสูงสุด
1) เครื่องยนต์สำหรับยานพาหนะเพื่อยานยนต์อุตสาหกรรม
ในขณะที่เครื่องยนต์ของรถยนต์ได้รับการออกแบบเพื่อให้พลัง และแรงบิดสูงสุดเมื่อขับเคลื่อนด้วยความ
เร็วค่อนข้างสูง เครื่องยนต์ของรถยกอุตสาหกรรมกลับได้รับการออกแบบให้ขับเคลื่อน ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความเร็วในการทำงานที่ต่ำกว่า
ลักษณะเด่นต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับเครื่องยนต์ยานยนต์อุตสาหกรรม ประกอบด้วยการให้แรงบิดสูงที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเชื่อถือได้ การประหยัดเชื้อเพลิง การปล่อยไอเสียที่ต่ำ และไม่ส่งเสียงดัง
ในการเปรียบเทียบเส้นกราฟพลังงานของเครื่องยนต์ที่ใช้ในรถยนต์ และเครื่องยนต์ที่ใช้ในยานยนต์อุตสาหกรรม คุณจะเห็นได้ว่าแรงบิดสูงสุดนั้น เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบนเส้นกราฟพลังงานของยานยนต์อุตสาหกรรม และช้ากว่าในเส้นกราฟพลังงานของรถยนต์ ทั้งนี้เป็นเพราะว่ายานยนต์อุตสาหกรรมจำเป็นต้องใช้แรงบิดสูงสุดเมื่อเครื่องยนต์อยู่ที่ rpms ต่ำ
(a) แรงบิดสูงที่ความเร็วเครื่องยนต์ต่ำ
มีความจำเป็นที่ต้องมีขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการป้องกันเครื่องยนต์ดับ เมื่อระบบลำเลียงสิ่งของทำงานหรือเมื่อพวงมาลัยพาวเวอร์ทำงานในขณะที่เครื่องยนต์วิ่งด้วยความเร็วต่ำ หรือไม่ได้เคลื่อนที่ เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเลือกใช้ระบบเชื้อเพลิง ระบบจุดระเบิด และระบบไอดีที่เข้ากัน
(b) การควบคุมความเร็วเครื่องยนต์โดยอุปกรณ์ปรับความเร็ว
- การควบคุมความเร็วเครื่องยนต์สูงสุด ความเร็วสูงสุดของเครื่องยนต์มีอิทธิพลต่อปัจจัยต่าง ๆ อย่างมากมายอีกด้วยอย่างเช่น เสียงรบกวนของการทำงาน และความเร็วของปั๊มไฮดรอลิก จึงมีการใช้อุปกรณ์ปรับความเร็ว เพื่อควบคุมความเร็วสูงสุดของเครื่องยนต์
- การควบคุมอุปกรณ์ปรับความเร็วที่แม่นยำ มีความจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมอุปกรณ์ปรับความเร็ว
ที่แม่นยำ เพื่อป้องกันสมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ที่อาจลดลงอย่างน่าตกใจ เมื่อบรรทุกสิ่งของจำนวน
มาก เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเลือกอุปกรณ์ปรับความเร็วที่มีลักษณะเหมาะสมมากที่สุด(C) เครื่องยนต์ที่ใช้ในการทำงานต่าง ๆ ที่หลากหลาย
นอกเหนือจากงานต่าง ๆ ที่รถยนต์สามารถทำได้ เครื่องยนต์ยานยนต์อุตสาหกรรมยังจะต้องทำงานอย่างเช่น การเร่งเครื่องเมื่อยกสิ่งของที่บรรทุกได้ด้วย เพื่อที่จะสามารถใช้งานได้กว้างกว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเลือก ระบบไอดี ระบบจุดระเบิด และระบบเชื้อเพลิงที่เหมาะสมที่สุด
ข้อความพิเศษ
อุปกรณ์ปรับความเร็ว
โดยทั่วไป บทบาทหน้าที่ของอุปกรณ์ปรับความเร็วในรถยนต์นั้นคือ เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่เกินอัตรารอบหมุน / นาทีสูงสุด บทบาทหน้าที่ของมันในรถยกอุตสาหกรรมนั้นมีความซับซัอนมากกว่า และถูกใช้เพื่อให้ได้กำลัง และแรงบิดสูงสุดที่อัตรารอบหมุน / นาที ของเครื่องยนต์ที่ต่ำของยานยนต์อุตสาหกรรม
หน้าที่ของอุปกรณ์ปรับความเร็วของยานยนต์อุตสาหกรรมประกอบด้วยปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้
· จำกัดความเร็วเครื่องยนต์สูงสุด ซึ่งไม่จำเป็นต่อยานยนต์อุตสาหกรรม
· ใช้แรงบิดเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
· ให้ความเร็วปั๊มไฮดรอลิกที่สมบูรณ์ที่สุด
· ให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด
· ช่วยลดเสียงรบกวน
· ช่วยยืดอายุการใช้งาน
(a) คุณลักษณะของเครื่องยนต์ดีเซล
เครื่องยนต์ดีเซลของยานยนต์อุตสาหกรรมเมื่อมองโดยรวม
ยานยนต์อุตสาหกรรมนำเสนอเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันถึง 5 แบบ พร้อมด้วยขนาดตัวเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันเพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้ยานยนต์อุตสาหกรรมได้กว้างกว่า (เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2544) พึงจำไว้ว่าจริง ๆ แล้วเครื่องยนต์เหล่านี้บางตัว อาจมีส่วนประกอบที่เหมือนกันกับในเครื่องยนต์อื่น ๆ แต่ถูกปรับแต่งพิเศษจนได้ระดับพลังงาน และแรงบิดเฉพาะเพื่อเหมาะสมการสภาพการลำเลียงสิ่งของที่แตกต่างกัน
ในตอนแรก ยานยนต์อุตสาหกรรมใช้เพียงเครื่องยนต์ดีเซลแบบของรถยนต์ ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้ใช่ในยานยนต์อุตสาหกรรมได้ ภายหลังเครื่องยนต์ดีเซลจึงได้รับการพัฒนา เพื่อใช้ในยานยนต์อุตสาหกรรมเป็นการเฉพาะเท่านั้น
ในช่วงเริ่มต้น ยานยนต์อุตสาหกรรมใช้เครื่องยนต์ J 4 กระบอกสูบ ระบบ indirect injection ขนาดเครื่อง 2,366 cc กับยานยนต์อุตสาหกรรม จากวันนั้นถึงตอนนี้เครื่องยนต์ J series มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี ในเรื่องให้กำลังที่สมดุลที่สุด , สมรรถนะ , และการทำงานที่คุ้มค่าแก่ยานยนต์อุตสาหกรรม
ตั้งแต่เป็นที่รู้จัก เครื่องยนต์ J series ได้ผ่านการอัพเกรดหลายครั้ง เพื่อเพิ่มพลัง และกำลังเครื่องมีการเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ 2J ขนาด 2,481 cc ในการอัพเกรดครั้งแรกในช่วงปลายยุค ค.ศ. 1970 เครื่องยนต์ 2J ถูกใช้เรื่อยไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รับการพัฒนาไปเป็นเครื่องยนต์ 1DZ ขนาด 2,486 cc ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 ประโยชน์ของมันใน 1 to 3 ton series ตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 ได้ทำให้มันเป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องยนต์ที่ไว้วางใจได้สูงพร้อมกับเสียงที่เบา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ภายหลังจึงติด
ตามมาด้วยเครื่องยนต์ 1DZ-II ที่ได้รับการพัฒนาเข้าสู่ท้องตลาด
เครื่อง 1Z 4 กระบอกสูบ ขนาดเครื่อง 2,953 cc อันเป็นเครื่องยนต์ดีเซล direct injection เครื่องแรกของยานยนต์อุตสาหกรรมนั้นได้รับการพัฒนาในปี 1986 และไม่นานจากนั้นก็ถูกใช้ในรถรุ่น 2 to 3 ton ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 เครื่องยนต์ 1Z ถูกอัพเกรดไปเป็นเครื่องยนต์ 2Z ขนาด 3,469 cc ในปัจจุบันยังคงใช้เครื่องยนต์ชนิดนี้ในรุ่น 2 to 3.5 ton ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าให้การสตาร์ทเครื่องที่ง่าย ใช้เชื้อเพลิงน้อย และปล่อยไอเสียเพียงน้อยนิด
เครื่องยนต์ 11Z ระบบ direct injection 6 กระบอกสูบ ขนาด 4,429 cc ซึ่งถูกนำเข้าสู่ตลาดในช่วงปลายทศวรรษ 1980 เพื่อใช้ใน 3.5 ton series ได้รับการอัพเกรดไปเป็นเครื่องยนต์ 13Z ขนาด 4,616 cc ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 ซึ่งตามมาด้วยเครื่องยนต์ 12Z ขนาด 4,994 cc ที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1990 เพื่อใช้ใน 5 to 8 ton series ได้รับการอัพเกรดไปเป็นเครื่องยนต์ 14Z ขนาด 5,204 cc ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 และใช้เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
ป้ายกำกับ:
ยานยนต์ อุตสาหกรรม,
รถยก,
รถยก อุตสาหกรรม,
รถยกอุตสาหกรรม,
อุตสาหกรรมรถยก
ยานยนต์อุตสาหกรรม | การออกแบบรูปลักษณ์ของยานยนต์อุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน
Posted by Contemporary industry
Posted on 04:25
การออกแบบรูปลักษณ์ของยานยนต์อุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน
คุณลักษณะต่าง ๆ ของยานยนต์อุตสาหกรรมเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่มีน้ำหนักถ่วงด้านหลัง เราจึงเปรียบเทียบยานยนต์อุตสาหกรรมกับรถยนต์ธรรมดาและรถบรรทุก ยานยนต์อุตสาหกรรมได้รับการออกแบบมาเฉพาะเพื่อยก และบรรทุกสิ่งของหนัก ๆ ในขณะที่รถยนต์ได้รับการออกแบบให้บรรทุกผู้โดยสาร เราจะทำการเปรียบเทียบรูปแบบของยานยนต์อุตสาหกรรม กับรถบรรทุก ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงรูปแบบเฉพาะของยานยนต์อุตสาหกรรมได้
ตำแหน่งการยกสูงขึ้นของเครื่องยนต์
ดังที่คุณได้เห็นในภาพตัวอย่าง ตัวเครื่องยนต์จะถูกยกขึ้นไปอยู่ใกล้กับตำแหน่งกึ่งกลางของยานยนต์อุตสาหกรรม และถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบการส่งกำลัง ยานยนต์อุตสาหกรรมมีการขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนกันรถยนต์ในปัจจุบัน แต่เพลาหน้าถูกใช้ในยานยนต์อุตสาหกรรมเพื่อรักษากำลังไว้
ตำแหน่งการบรรทุกของ
ในรถกระบะ ของจะถูกบรรทุกบริเวณเหนือเพลาหลังศูนย์กลาง ของบรรทุกจะอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของตัวรถกระบะ น้ำหนักของการบรรทุกจะถูกเฉลี่ยอย่างเท่า ๆ กันไปบนลูกล้อทั้งหมด
อย่างไรก็ตามหากคุณดูที่ภาพตัวอย่างของยานยนต์อุตสาหกรรม คุณจะเห็นว่าของนั้นถูกบรรทุกที่ด้านหน้าของเพลาหน้า ซึ่งหมายความว่ายานยนต์อุตสาหกรรมจะเอนไปด้านหน้าหากไม่มีน้ำหนักถ่วงดุลที่ด้านหลังของยานยนต์อุตสาหกรรมบทบาทของการถ่วงน้ำหนักก็เพื่อจะชดเชยน้ำหนักการบรรทุกบนตัวยก และเพื่อป้องกันไม่ให้ยานยนต์อุตสาหกรรมเอนไปด้านหน้า
ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
ในขณะที่รถยนต์ในปัจจุบัน ใช้ระบบการขับเคลื่อนล้อหน้า โดยปรกติรถกระบะโดยส่วนใหญ่ใช้ระบบการขับเคลื่อนล้อหลัง
เหตุผลสำหรับเรื่องนี้คือ น้ำหนักของการบรรทุกซึ่งโดยปรกติแล้วจะตกไปที่ล้อหลัง ช่วยทำให้เกิดแรงดึงไปยังล้อขับเคลื่อนด้านหลัง หากล้อขับเคลื่อนอยู่ด้านหน้าน้ำหนักของสิ่งที่บรรทุกก็มีแนวโน้มที่จะลดน้ำหนักที่ตกบนล้อหน้าได้ ซึ่งทำให้ล้อหมุนได้ง่ายขึ้นยานยนต์อุตสาหกรรมก็ใช้หลักการพื้นฐานเดียวกันนี้ เช่นกันน้ำหนักของสิ่งที่บรรทุกจะตกลงที่ล้อหน้า ซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนด้วยการออกแบบนี้จะให้น้ำหนักสูงสุดไปตกที่เพลาและล้อด้านหน้าเพื่อให้ได้แรงลากที่ยอดเยี่ยม
การบังคับทิศทางล้อหลัง
รถกระบะ และรถยนต์ทุกประเภทใช้ล้อหน้าบังคับทิศทางการออกแบบนี้เหมาะสมกับการใช้งานเนื่องจาก รถยนต์จะขับเคลื่อนไปในทิศทางด้านหน้า
อย่างไรก็ตาม คุณเคยสังเกตไหมว่ารถยนต์ของคุณหักเลี้ยวได้มากเท่าไรเมื่อถอยรถไปด้านหลัง รูปแบบของล้อหลังให้การหักเลี้ยวที่มากกว่า นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่รถยกอุตสาหกรรมใช้ล้อหลังเป็นล้อบังคับทิศทาง
เมื่อมีการบรรทุกสิ่งของ โดยปรกติแล้วสัดส่วนน้ำหนักที่ตกลงบนล้อหน้า และล้อหลังของรถกระบะจะ
อยู่ที่ 40/60 โดย 40% ของสิ่งที่บรรทุกตกบนล้อหน้าและ 60% บนล้อหลัง เมื่อเปรียบเทียบกันสัดส่วนการกระจายน้ำหนักของยานยนต์อุตสาหกรรมเมื่อบรรทุกของเต็มอัตราจะอยู่สูงถึง 90/10 โดยที่น้ำหนักเพียง 10% สิ่งที่บรรทุกตกบนล้อหลังซึ่งทำให้การบังคับทิศทางเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
พัดลมแรงดันด้านหลัง
รถบรรทุกและรถยนต์ส่วนใหญ่มีหม้อน้ำที่ด้านหน้าของยานพาหนะ ซึ่งมีเหตุผลดีที่จะอธิบายเรื่องนี้เนื่อง จากยานพาหนะเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง ทำให้ดันอากาศให้เข้าไปยังตัวทำความร้อนได้มากกว่าโดยธรรมชาติ และใช้พัดลมเพื่อให้ความเย็นมากขึ้นไปอีก
ยานยนต์อุตสาหกรรมไม่ต้องขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีส่วนประกอบไฮดรอลิกจำนวนมากที่ทำให้เกิดความร้อน รูปแบบพัดลมระบายความร้อนออกด้านหลังจึงช่วยเป่าความร้อนจากห้องเครื่องยนต์ และส่วนประกอบของไฮดรอลิกไปทางด้านหลังของยานยนต์อุตสาหกรรม และก็ให้ความเย็นแก่หม้อน้ำไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย โปรดจำไว้ว่ามีการใช้พัดลมชนิดดึงลมที่ได้รับการติดตั้งในส่วนหลังของหม้อน้ำในยานยนต์อุตสาหกรรมมาด้วย
ป้ายกำกับ:
รถยก,
รถยก อุตสาหกรรมม,
อุตสาหกรรม รถยก,
อุตสาหกรรมรถยก
หมวดหมู่ยานยนต์
- 014 Chevrolet Silverado HD (1)
- 10 เคล็ดลับขับปลอดภัยเมื่อน้ำท่วม (1)
- 2014 Volvo S80 (1)
- 2015 Lincoln MKC crossover (1)
- 2015 Volvo S60 T6 (1)
- 2015 Volvo V40 (1)
- 2016 Chevrolet (1)
- 2016Chevrolet Colorado (1)
- 2016 Toyota Fortuner (1)
- 2018 Mazda CX-5 (1)
- 2018 Toyota Rush (2)
- 2 Stroke Engine (1)
- 5 ประตู (6)
- กระบวนการผลิต (19)
- กระบอกสูบ (1)
- กราฟกำลัง (1)
- กราฟแรงบิด (1)
- ก้านสูบ (1)
- การขับรถอย่างปลอดภัย (1)
- การใช้ไฟอย่างถูกต้อง เมื่อฝนตกหนัก (1)
- การดูแลรักษารถด้วยตนเอง (2)
- การเติมลม (1)
- การเติมลม กับ ล้อแม็กซ์ (1)
- การถ่วงล้อ (1)
- การบำรุงรักษา (4)
- การบำรุงรักษาและตรวจเช็คประจำวันรถยนต์คู่ใจ ควรทำอย่างไร (1)
- การปลี่ยนขนาด ยางรถยนต์ (1)
- การเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกลของเครื่องยนต์ (1)
- การเผาไหม้ (11)
- การเผ่าไหม้ (1)
- การวิเคราะห์ปัญหาเครื่องยนต์ (1)
- การหยุดรถ และการจอดรถ (1)
- การออกแบบ (10)
- แก๊สโซลีน (3)
- ข้อควรปฏิบัติทั่วไป ในการใช้รถยนต์ (1)
- ข้อควรปฏิบัติ เมื่อการขับขี่ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ (1)
- ขับเคลื่อน (13)
- ขับอย่างไรเพื่อยืดอายุยาง (1)
- ข่าวยานยนต์ (4)
- ควรจะทำอย่างไรเมื่อยางรถระเบิดขณะขับรถอยู่ (1)
- คว้านเสื้อสูบ (2)
- ความรู้ (3)
- คอมมอนเรล (1)
- คอยล์จุดระเบิด (8)
- คำศัพท์น่ารู้ (1)
- เครื่องมือ (1)
- เครื่องยนต์ (64)
- เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์ 4 จังหวะ (1)
- เครื่องยนต์คอมมอนเรล (1)
- เครื่องยนต์ดีเซล (3)
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร (1)
- เครื่องยนต์ดีเซลตระกูล GD รุ่นใหม่ (1)
- เครื่องยนต์เบนซิน (1)
- เครื่องยนต์แบบโรตารี่ (1)
- เครื่องยนต์ร้อนแล้วดับ สตาร์ทติดยาก เกิดจากสาเหตุใด และแก้ไขอย่างไร (1)
- เครื่องยนต์เล็ก (2)
- เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากตอนอากาศชื้นเกิดจากอะไร ? (1)
- เครื่องยนต์สันดาปภายใน (3)
- เครื่องยนต์หัวฉีด (1)
- เครื่องยนต์ EFI (2)
- เครื่องยนต์V8 (1)
- เคล็ดลับ (2)
- จอดรถให้ปลอดภัย (1)
- จักรยานยนต์ (1)
- จังหวะการฉีดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ EFI (1)
- ชิ้นส่วนยานยนต์ (1)
- ชื่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ภาษาไทย และอังกฤษพร้อมรูป คลิปวีดีโอ (1)
- เชฟโรเลต (1)
- เชฟโรเลต โคโลราโด 2015 (1)
- โช๊คอัพ (5)
- ซ่อม (21)
- ซ่อมเครื่องยนต์ (7)
- ซ่อมบำรุง (6)
- ซุปเปอร์คาร์ (3)
- ซูซุูกิ (2)
- ซูซูกิ ไฮบริด (1)
- โซลินอย (1)
- ดัดแปลง (3)
- ไดชาร์จ (2)
- ไดร์สตาร์ท (10)
- ไดสตาร์ท (12)
- ตรวจสอบเครื่องยนต์ (1)
- ตลับลูกปืน (2)
- ตัวอักษรบนยาง บอกอะไร? (1)
- ตีปลอก (1)
- โตโยต้า (21)
- โตโยต้า 2015 (1)
- ถุงลมนิรภัย (1)
- ที่นั่งเด็ก (5)
- เทคนิคการขับรถป้องกันเชิงอุบัติเหตุ (1)
- เทคนิคการใช้รถและการดูแลรถอย่างง่ายๆ (1)
- เทคโนโลยียานยนต์ (53)
- เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ (8)
- เทอร์โบ (1)
- เทอร์โบแปรผัน (7)
- น้ำมันเชื้อเพลิง (14)
- น้ำมันดีเซล (6)
- น้ำมันเบนซิน (4)
- นิตยสาร (3)
- นิสสัน (11)
- บำรุงรักษาเครื่องยนต์ (1)
- บีเอ็มดับเบิ้ลยู (1)
- เบรค (22)
- เบาะรถยนต์ (5)
- เบาะสำหรับเด็ก (5)
- แบตเตอรี่ (3)
- แบรนด์รถยนต์ (1)
- แบริ่ง (1)
- ไบโอดีเซล (2)
- ประกอบเครื่องยนต์ (5)
- ประกอบรถยนต์ (13)
- ประดับยนต์ (5)
- ประเภทรถยนต์ (1)
- ปอร์เช่ (2)
- ปัญหารถยนต์ (1)
- ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ 2015 (1)
- ปิกอัพ (4)
- ปี2017 (3)
- เปลี่ยนอะไหล่ (3)
- ผลิตรถยนต์ (16)
- แผนภาพจังหวะการเปิดของลิ้น (Valve Timing Diagram) เครื่องยนต์ 4 สูบ และ 6 สูบ (1)
- แผนภาพต้นกำลังงานของรถยนต์ (1)
- ฝาสูบ (4)
- พจนานุกรมศัพท์ยานยนต์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒ (1)
- พูเล่ (1)
- เพลาข้อเหวี่ยง (1)
- เพลาท้าย (2)
- ฟอร์ด (1)
- ฟิล์มกรองแสง ติดดี หรือ ไม่ติดดี มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ทีคำตอบ (1)
- เฟอรารี่ (3)
- เฟืองท้าย (14)
- ไฟฉุกเฉิน ไม่จำเป็นและไร้สาระ (1)
- ไฟฟ้ารถยนต์ (24)
- ภาพโครงสร้างเครื่องยนต์ EFI (1)
- ภาพรวมรถยนต์ (9)
- มาสด้า (3)
- มิตซูบิชิ (6)
- มินิ (2)
- โมเดลรถยนต์ (3)
- ยนตกรรม (1)
- ยานยนต์ อุตสาหกรรม (26)
- ยาริส (15)
- รถกระบะ (9)
- รถกระบะ Revo (1)
- รถเก๋ง (51)
- รถแข่ง (2)
- รถจิ๊บ (1)
- รถเบนซ์ (19)
- รถยก (27)
- รถยก อุตสาหกรรม (26)
- รถยก อุตสาหกรรมม (1)
- รถยนต์ (3)
- รถยนต์ไฟฟ้า (4)
- รถรุ่นเก่า (1)
- รถศูนย์ (16)
- รถสปอร์ต (10)
- รถหรู (1)
- รถใหม่ (41)
- ระบบขับอัตโนมัติ (1)
- ระบบความร้อน (2)
- ระบบจุดระเบิด (10)
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงแก๊สโซลีน (Gasoline Fuel Injection System) (1)
- ระบบช่วงล่าง (27)
- ระบบเบรค (22)
- ระบบไฟฟ้า (14)
- ระบบรองรับ (5)
- ระบบระบายความร้อน (6)
- ระบบลม (3)
- ระบบส่งกำลัง (1)
- ระบบหล่อเย็น (2)
- ระบบหัวฉีด (1)
- ระบบห้ามล้อ (14)
- ระบบ Hybrid (1)
- ราคารถยนต์ (5)
- รางร่วม (1)
- รีเลย์ (6)
- รีวิว (15)
- รีวิวรถยนต์ (11)
- รู้ไว้ก่อน : การเปลี่ยนขนาดยาง (1)
- เรื่อง น้ำมันเครื่อง (1)
- โรงงานผลิตรถยนต์ (13)
- ล้อตุนกำลัง (1)
- ลักษณะดอก ยางรถยนต์ (1)
- ลากรถอย่างไรเมื่อรถเสีย (1)
- ลำดับการจุดระเบิด (1)
- ลูกปืนกลม (1)
- ลูกสูบ (3)
- วงจรไฟฟ้า (7)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECCS Nissan RB20E (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด ECI-multi Mitsubishi 4G61 (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด EFI เครื่องยนต์ Toyota 4A-GE (1)
- วงจรไฟฟ้าเครื่องยนต์หัวฉีด Honda B16A VTEC DOHC รุ่นแรก (1)
- วิชาช่างยนต์ (10)
- วี8 (1)
- สเปกรถยนต์ (5)
- สร้างเครื่องยนต์ (1)
- สร้างโมเดลรถยนต์ (1)
- สายพานเครื่องยนต์ (2)
- สีรถ (8)
- เสื้อสูบ (5)
- หนังสือรถยนต์ (7)
- หม้อน้ำ (2)
- หลักการทำงาน (2)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ (1)
- หลักการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ (1)
- หัวเทียน (24)
- ห้ามล้อ (14)
- แหวนลูกสูบ (1)
- องค์ประกอบการสันดาปของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- ออกแบบรถยนต์ (22)
- อะไหล่เครื่องยนต์ (3)
- อะไหล่ยนต์ (1)
- อัตราค่าปรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (1)
- อัตราส่วนผสมอากาศต่อเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน (1)
- อาการหัวเทียน (12)
- อินเตอร์คูลเลอร์ (6)
- อีโก้คาร์ (5)
- อุตสาหกรรม รถยก (27)
- อุปกรณ์เสริม (6)
- แอร์เริ่มไม่เย็น และส่งกลิ่นอับเวลาเปิดแอร์ใหม่ ควรทำอย่างไร ? (1)
- ไอดี (3)
- ไอเสีย (6)
- ฮอนด้า (6)
- ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด (2)
- Accessories (5)
- All New toyota yaris 2013 2014 (1)
- Alternator (1)
- alternators (1)
- Ativ (7)
- Audi (2)
- Audi A4 (1)
- Automatic drive (1)
- Ball Bearing (1)
- bearing (1)
- biodiesel (2)
- BMW (4)
- Brake (23)
- Brake system (23)
- BT-50 (1)
- Car Family (1)
- Cars (61)
- CAT (Catalytic Converter) เครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา (1)
- Check Engine (1)
- Chevrolet (1)
- CHEVROLET COLORADO (2)
- Colorado (1)
- commonrail (1)
- Common Rail (1)
- Common Rail Engine (1)
- Concept Car (1)
- Connecting rod (1)
- Crankshaft (1)
- Cylinder head (1)
- Diesel Engine (3)
- Diesel fuel (6)
- differential (12)
- DIY (8)
- DURAMAX ENGINE (1)
- DURAMAX VIN CHART (1)
- ECCS (1)
- EFI (1)
- EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการหมุนเวียนไอเสีย (1)
- Electric car (4)
- Electric cars (4)
- Electronic Fuel Injection Engine (1)
- Engine (37)
- Engine Block (1)
- Engine Curve (1)
- Ferrari (3)
- Flywheel (1)
- Ford (4)
- Ford Ranger (2)
- Fuel (14)
- gasoline (3)
- Gasoline engine (1)
- General Motors (2)
- GMC Canyon (1)
- Honda (11)
- Honda Accord (1)
- HONDA ACCORD HYBRID ใหม่ (1)
- Honda CR-V 2015 (1)
- Honda HR-V (1)
- Honda HRV 2015 (1)
- Honda Jazz (1)
- Honda Vezel (1)
- Hydrogen cars (1)
- i-DTEC (1)
- Ignition Coil (8)
- Ignition System (1)
- i-MMD (1)
- Intercooler (6)
- internal combustion engine (3)
- Jeeb (1)
- lamborghini (4)
- Lamborghini Revuelto (2)
- Mazda (4)
- Mercedes Benz (21)
- Mini (2)
- MINI Cooper (2)
- Mitsubishi (9)
- Mustang (1)
- Navara (2)
- NGV (1)
- Nissan (11)
- nissan np300 navara (1)
- NP300 (1)
- NP300 NAVARA Single Cab (1)
- pickup (6)
- pickup truck. (5)
- Piston (3)
- Piston Ring (1)
- Porsche (2)
- Port Timing Diagram ของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (1)
- Ranger (1)
- Rear axle (1)
- Relay (6)
- Revuelto (1)
- Rotary Engine (1)
- S60 (1)
- S90 (1)
- SEAT (1)
- Self Diagnosis System (1)
- Shock Absorbers (5)
- SKODA (1)
- SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล (1)
- solenoid (4)
- Spark Plugs (20)
- Starter (6)
- Supper Car (4)
- Suspension System (3)
- Suzuki (2)
- TCCS (1)
- Tesla Model X (1)
- TOYOTA (29)
- Toyota และ Lexus (1)
- Toyota Hilux Revo (1)
- Triton (1)
- V60 (1)
- Ⅴ8 (1)
- Variable Nozzle Turbo (2)
- VGT (5)
- Volkswagen (1)
- Volvo (4)
- Volvo purchased the Polestar brand (1)
- Volvo S90 (1)
- Wankel Engine (1)
- XC90 (1)
- Yaris (15)