ระบบควบคุมวาล์วแปรผัน (Variable Valve Timing) เป็นเทคโนโลยีสำคัญของเครื่องยนต์สมัยใหม่ ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ ประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ โดยระบบที่พบได้บ่อย ได้แก่ VVT-i, VTEC และ MIVEC ซึ่งพัฒนาโดยผู้ผลิตรถยนต์แต่ละค่าย
ระบบ VVT-i คืออะไร
VVT-i (Variable Valve Timing with intelligence) เป็นเทคโนโลยีของ Toyota ที่ควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วไอดีให้เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ โดยใช้แรงดันน้ำมันเครื่องในการปรับองศาแคมชาฟท์
ข้อดีของระบบ VVT-i คือช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ ประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยไอเสีย เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ระบบ VTEC คืออะไร
VTEC (Variable Valve Timing and Lift Electronic Control) เป็นเทคโนโลยีของ Honda ที่มีจุดเด่นในการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของแคมชาฟท์ตามรอบเครื่องยนต์ โดยจะแยกการทำงานเป็นรอบต่ำและรอบสูง
เมื่อเข้าสู่รอบสูง ระบบ VTEC จะเปิดวาล์วกว้างและนานขึ้น ทำให้ได้กำลังเครื่องยนต์สูง เหมาะกับรถที่เน้นสมรรถนะและการขับขี่แบบสปอร์ต
ระบบ MIVEC คืออะไร
MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve timing Electronic Control) เป็นเทคโนโลยีของ Mitsubishi ที่ผสมผสานการปรับทั้งจังหวะและระยะยกของวาล์ว เพื่อให้เหมาะสมกับทุกช่วงรอบเครื่องยนต์
ระบบ MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีในรอบต่ำ และยังให้กำลังสูงในรอบปลาย พร้อมช่วยประหยัดน้ำมัน
เปรียบเทียบความแตกต่าง VVT-i, VTEC และ MIVEC
- VVT-i : เน้นความนุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน และการใช้งานทั่วไป
- VTEC : เน้นสมรรถนะรอบสูง และอัตราเร่ง
- MIVEC : สมดุลระหว่างความแรงและความประหยัด
สรุป
ระบบวาล์วแปรผันทั้ง VVT-i, VTEC และ MIVEC ต่างมีแนวคิดและจุดเด่นเฉพาะตัว การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ หากเน้นความประหยัดและความทนทาน VVT-i ตอบโจทย์ หากชอบความแรง VTEC คือคำตอบ ส่วน MIVEC เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสมดุล
ระบบวาล์วแปรผัน, VVT-i, VTEC, MIVEC, เทคโนโลยีเครื่องยนต์, ระบบเครื่องยนต์รถยนต์