ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นเทรนด์หลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีคำถามตามมาว่า รถยนต์ไฟฟ้าไฟไหม้ มีโอกาสเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหนกันแน่? หลายคนเห็นข่าวบนโซเชียลแล้วเกิดความกังวลว่ารถ EV อาจมีความเสี่ยงไฟลุกไหม้มากกว่ารถเครื่องยนต์สันดาบแบบเดิม ซึ่งในบทความนี้เราจะมาดูข้อมูลจริงและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโอกาสไฟไหม้ใน รถ EV อย่างละเอียด
สาเหตุหลักที่อาจทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดไฟไหม้
แม้ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ในรถ EV จะถูกออกแบบมาอย่างปลอดภัย แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดเหตุไฟไหม้ได้หากมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้:
- ความเสียหายที่แบตเตอรี่ จากอุบัติเหตุ เช่น การชนแรงๆ ที่ทำให้เซลล์แบตเสียหาย
- การชาร์จไฟผิดวิธี ใช้อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานหรือจุดต่อพ่วงที่มีปัญหา
- ความร้อนสะสม จากการใช้งานในอากาศร้อนจัดต่อเนื่อง
- ข้อบกพร่องจากโรงงานผลิต ซึ่งพบได้ไม่บ่อย
แต่โอกาสเหล่านี้เกิดขึ้นไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนรถ EV ที่ใช้งานอยู่ และผู้ผลิตได้เสริมระบบป้องกันหลายชั้น ทั้งระบบระบายความร้อน, ระบบตัดวงจร, เซนเซอร์ตรวจจับความร้อน และซอฟต์แวร์ควบคุมแบตเตอรี่ (BMS)
รถยนต์ไฟฟ้าไฟไหม้บ่อยกว่ารถน้ำมันจริงไหม?
จากข้อมูลสถิติในหลายประเทศพบว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราไฟไหม้น้อยกว่ารถน้ำมัน เนื่องจากระบบไฟฟ้าถูกควบคุมอย่างละเอียดและมีการตรวจจับความผิดปกติแบบเรียลไทม์ ต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาบที่มีเชื้อเพลิงไวไฟไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดไฟไหม้ในแบตเตอรี่รถ EV จะดับยากกว่าเพราะเป็นลักษณะการลุกไหม้แบบ Thermal Runaway จึงต้องใช้วิธีเฉพาะทาง เช่น การลดอุณหภูมิด้วยน้ำจำนวนมากหรือการเก็บกักความร้อน
วิธีลดความเสี่ยงไฟไหม้ในรถยนต์ไฟฟ้า
- ใช้เครื่องชาร์จมาตรฐานที่ผ่านการรับรองจากผู้ผลิต
- หลีกเลี่ยงการชาร์จในพื้นที่อากาศร้อนจัดหรือไม่มีการระบายอากาศ
- ตรวจเช็กระบบแบตเตอรี่เป็นประจำตามระยะ
- อัปเดตซอฟต์แวร์ระบบแบตเตอรี่ (BMS) อย่างสม่ำเสมอ
สรุปคือ โอกาสเกิด ไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้า มีจริงแต่เกิดขึ้นน้อยกว่าที่หลายคนคิดมาก และเมื่อใช้งานรถ EV อย่างถูกวิธี ก็ถือว่าปลอดภัยเทียบเท่าหรือมากกว่ารถน้ำมันในหลายกรณี
รถยนต์ไฟฟ้า,EV,ไฟไหม้รถยนต์,ความปลอดภัยEV,แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน,ข่าวยานยนต์